หลังจากที่เจ้าบ้านพึ่งออกไปคว้า 3 แต้มใหญ่มาจากบุรีรัมย์ ในดาร์บึ้แมตช์อีสานใต้ เกมนี้กลับมาเล่นในบ้านก็มีความต้องการจะสานต่อฟอร์มเก่งต่อเนื่องเพื่อหนีโซนแดง ส่วนทีมเยือนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อสัปดาห์ก่อน ในตำแหน่งเฮดโค้ชอย่างมาโน่ โพลกึ้ง ที่ขอลาออกเพื่อรับผิดชอบผลงานของทีมที่แพ้มา 4 เกมรวด ทำให้ทีมเยือนมุ่งหวังที่จะมาคว้า 3 แต้ม เพื่อโอกาสกลับไปติดท็อปโฟร์อีกครั้ง โดย นครราชสีมา มาสด้า เอฟซีเจ้าบ้านมาในระบบ 4-2-3-1 ส่วน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมเยือนมาในระบบ 4-3-3 เช่นเดิม

เริ่มเกมมา กลายเป็นเจ้าถิ่นได้บุกใส่ก่อน แต่ก็ไม่ได้สร้างความอันตรายแก่ผู้รักษาประตูอย่าง ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด ที่ต้องออกแรงเซฟ หลักจากนั้นเป็นโอกาสของบียูบ้างจากลูกเตะมุม แล้วกลายเป็นประตูขึ้นนำ 0-1 แต่ประตูดังกล่าวอาจมองได้ว่าเป็นจังหวะของเกมที่ลูกบอลมาตกใส่หลังเอเวอร์ตัน ก่อนที่จะมาเข้าทางทอม เบียร์ ซัดจ่อๆ เข้าไป 

เกมนี้ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ยังอาศัยจังหวะเข้าทำแบบเดิมๆ เหมือนสมัยมาโน่ โพลกิ้ง คือการเปิดบอลจากริมเส้น โดยทริสตองโด หรือสรรวัชญ์ ซึ่งยังได้ผลอยู่ เพียงแต่การโหม่งของณัฐวุฒิ สุขสุ่ม ดันไปชนคานอย่างจัง

แต่ถึงกระนั้น ความแตกต่างจากในยุคมาโน่ คือมีมิติการเปิดบอลยาวในแนวรับมาให้กับกองหน้า รวมถึงการเล่นเกมรับที่ไม่ดันสูง แต่เน้นความรัดกุมมากยิ่งขึ้น นั่นจึงทำให้โคราชแทบไม่มีจังหวะได้โจมตีแบบเนื้อๆ เลย จนเป็นปัจจัยที่ทำให้ทีมไม่เสียประตูเยอะ 

ลูกตีเสมอ มาจากจังหวะทำฟาวล์ของทริสตองโด ที่การกระโดดขึ้นแย่งโหม่งเหมือนจงใจวิ่งไปกระแทก เดนนิส มูริโย่ มากกว่า ซึ่งนับว่าเสียหาย เพราะจังหวะนั้นไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้องทำฟาวล์ 

แนวรุกโคราช ไม่ได้มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฉกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของคู่แข่ง กล่าวคือในเกมนัดก่อนกับบุรีรัมย์ก็ฉกฉวยความผิดพลาดไว้ได้ทั้ง 2 จังหวะ เป็น 2 ประตู ส่วนเกมนี้ความผิดพลาดของบียู 1ครั้ง ก็กลายเป็น 1 ประตูของโคราช แม้อาจจะต้องไปลุ้นอีกต่อ จากการดวลลูกโทษบทสรุปจากเกมนี้

โคราชไม่มีอะไรพัฒนาไปจากเกมที่ผ่านๆมา แนวรับรัดกุม แนวรุกรอคู่แข่งพลาด ส่วนบียูผลงานดีขึ้นจากที่แพ้รวด 4 นัด ไม่มีแต้ม เกมนี้ได้ 1 แต้ม แต่สิ่งที่เริ่มเห็นได้บ้างแล้วคือเกมรับที่ดูรัดกุมขึ้น ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการพาบียูกลับมาทำผลงานให้ดีอีกครั้ง

ติดตามข่าวฟุตบอล คาสิโนออนไลน์และติดตามเจอร์เก้น คล็อปป์ สนับสนุนการต่อสู้เพื่อเด็กยากจนของ มาร์คัส แรชฟอร์ด